Xiaomi SU7 Ultra มือสอง ร่วงไม่ยั้ง!
จาก EV ตัวท็อปสุดของค่าย สู่รถที่ขายต่อแล้วเจ็บสุดในรุ่น
ตอนเปิดตัว ใครๆ ก็พูดถึง Xiaomi SU7 Ultra ว่าเป็น “Tesla Killer” เวอร์ชันจีน ราคา SU7 Ultra ตอนพรีเซล 814,900 หยวน 4.32 ล้านบาทไทย ราคาเปิดตัวจริง 529,900 หยวน 2.81 ล้านบาทไทย (ส่วนต่าง 1.51 ล้านบาท)

แต่แค่ไม่ถึง 3 เดือน… รถรุ่นนี้กลับโดนเจ้าของบางรายประกาศขายต่อแบบ “ขาดทุนเกือบล้าน!” ราคาตกแรงแบบไม่ไว้หน้า “รุ่นท็อป”


จากราคาตอนซื้อ 560,000 หยวน (~3.4 ล้านบาท)
กลับประกาศขายเพียง 410,000 หยวน (~2.5 ล้านบาท)
ขาดทุนกว่า 150,000 หยวน (~920,000 บาท!)
เปรียบเทียบ SU7 Ultra vs SU7 Standard
รายการ | SU7 Standard | SU7 Ultra |
---|---|---|
ราคาตั้งต้น (จีน) | 215,900 หยวน (~1.3 ลบ.) | 529,900 หยวน (~3.2 ลบ.) |
แรงม้า | 299 hp | 1,527 hp |
มือสองขายต่อ | ราคาแทบไม่ตก (เกิน 90% ของราคาจริง) | ขายต่อขาดทุน ~27% |
ระยะรอรับรถ | นานถึง 7–9 เดือน | รอแค่ 4–5 เดือน |

แล้วทำไมล่ะ SU7 Ultra ขายต่อถึง “ราคาร่วงแรง”
1. Oversupply (ของมีเยอะกว่าความต้องการ)
- แพลตฟอร์มจีนเช่น Xiaohongshu, Autohome, 58.com มีลิสต์ขาย SU7 Ultra มือสองมากขึ้นในเดือนเดียวกัน
- เมื่อมี จำนวนรถมือสองเข้าสู่ตลาดมากเกินไป โดยเฉพาะรุ่นเดียวกันในระยะเวลาใกล้เคียงกัน (เช่น SU7 Ultra ที่คนซื้อมา “ลองของใหม่” แล้วขายออกพร้อมกัน)
- ตลาดไม่สามารถดูดซับรถทั้งหมดได้ทัน ราคาจึงถูกกดลงโดยอัตโนมัติ
2. ราคามือหนึ่ง “กดต่ำ” อย่างตั้งใจ
- Xiaomi ใช้กลยุทธ์ “เจาะตลาด” โดยตั้งราคามือหนึ่งถูกมาก (เช่น SU7 Ultra จาก 814,000 → ลดเหลือ 529,900 หยวน ก่อนวางขายจริง)
→ ทำให้คนที่เพิ่งซื้อรุ่นราคาเดิม “ตกใจ – ขาดทุนทันที”
→ มือสองยิ่งขายต่อไม่ได้ราคา เพราะคนหันไปซื้อ “มือหนึ่งใหม่ที่ถูกกว่า”
3. การเปิดรับรถเร็วเกิน (supply speed > demand speed)
- ในกรณี SU7 Ultra: Xiaomi ส่งมอบรถได้เร็วกว่า SU7 รุ่นอื่น (19 สัปดาห์เทียบกับ 34+)
→ ทำให้ “ไม่รู้สึกพิเศษ”
→ ส่งผลให้ราคามือสองไม่เกิดแรงพิเศษ (เช่น rare, รอไม่ได้, ขอจ่ายแพงเพื่อได้เลย)
4. กลุ่มลูกค้าเฉพาะทาง – ไม่เกิดตลาดรอง
- SU7 Ultra เป็น EV แรงจัด 1,527 hp – คนซื้อต้อง “มีฐานะ + ชอบขับเร็ว”
- แต่กลุ่มคนแบบนี้ไม่ได้เยอะ → ตลาดมือสองไม่มีคนรองรับเพียงพอ → ราคาตก
บทสรุปแบบตรงไปตรงมา
Xiaomi SU7 Ultra แรงจัดจริง ออปชั่นล้น แต่หากคิดถึง “การลงทุนระยะยาว”
อาจต้องมองรุ่น Standard ที่ให้ความสมดุลกว่าเรื่องราคา ความต้องการ และการขายต่อ